Written by 5:54 am เราเลือกให้คุณ, แนะนำ, ไลฟ์สไตล์ Views: 5

ขอวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ ฉนับคนทำงาน ต้องใช้อะไรบ้าง 

สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวประเทศอังกฤษ แต่ห่วงว่าการทำวีซ่าอังกฤษไม่ผ่าน หรืออาจยุ่งยากวุ่นวายจนไม่กล้าขอยื่นวีซ่า วันนี้เรามีประสบการณ์ของตัวเองมาแชร์เรื่องของเอกสารขอยื่นวีซ่าอังกฤษใช้อะไรบ้าง ขอยังไงให้ผ่าน และใช้เวลารอผลวีซ่ากี่วัน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังหาข้อมูลเพื่อยื่นวีซ่าเที่ยวอังกฤษ

ก่อนอื่นเราขอบอกก่อนนะคะว่า เรายื่นวีซ่าท่องเที่ยว แบบคนพนักงานประจำ เพราะฉะนั้นเอกสารที่เราใช้จึงเกี่ยวเนื่องกับพนักงานประจำทั่วไปที่ควรจะมี และสามารถขอได้จากฝ่ายบุคคลของบริษัทที่เราทำงานอยู่ค่ะ การทำวีซ่าอังกฤษครั้งแรก ไม่ควรขอระยะเวลานานเกินไป ส่วนใหญ่เขาจะพิจารณาให้ครั้งแรกอยู่ที่ 6 เดือน ซึ่งเราเองไม่ได้ระบุว่าต้องการขอไปกี่เดือน แต่เราระบุวันเดินทางขาไป และ ขากลับ  ซึ่งอยู่ในระยะเวลาประมาณ 2 เดือน จึงอยู่ในเกณฑ์การพิจารณาที่ 6 เดือนแบบสบาย ๆ หากใครต้องการจะไปนานกว่านั้น ให้ครั้งแรกขอน้อย ๆ ไม่เกิน 6 เดือนไว้ก่อน แล้วครั้งต่อไปค่อยขอเพิ่มระยะเวลา อย่าขอไปนานเป็นปี ๆ ในครั้งแรก อาจทำให้การขอวีซ่าไม่ผ่านได้ค่ะ

United Kingdom passport with Union Jack Great Britain flag

การขอ VISA การท่องเที่ยว หลักสำคัญในการพิจารณา คือ ใบรับรองงาน เพราะเป็นหลักประกันว่าเรามีงานทำ มีรายได้ มีเงินเที่ยว และจะต้องกลับมาทำงานตามระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน ประวัติต้องไม่เสีย ไม่เคยมีการเดินทางแล้วอยู่เกินกำหนด มีหลักฐานการวางแผนเที่ยว และมีหลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่าไปเที่ยวเท่านั้น ไม่มีอะไรคลุมเคลือ หากเราเตรียมเอกสารครบ และเตรียมตัวดี การขอวีซ่าอังกฤษก็จะมีโอกาสผ่านสูงค่ะ 

ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการขอยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ 

1. Application Form  

Application Form คือ แบบฟอร์มหรือใบสมัครที่จะใช้ในการยื่นขอวีซ่า ซึ่งจะต้องเข้าไปกรอบแบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://visas-immigration.service.gov.uk/product/uk-visit-visa ซึ่งจะเป็นภาษาอังกฤษล้วน ๆ เพราะฉะนั้นจะต้องอ่านและทำความเข้าใจให้ดี ๆ ก่อนจะกรอกข้อมูลลงไป แต่เมื่อเราเปิดเว็บไซต์แล้ว เราเลือกลงทะเบียนแบบ Register เพราะต้องการเลือกวีซ่าเพื่อท่องเที่ยว จากนั้นจึงกรอกข้อมูลส่วนตัวและอีเมล และยืนยันอีกครั้ง ก่อนที่จะทำการ Login ด้วยอีเมลที่เรากรอกลงไป โดยจะต้องกรอกข้อมูลให้ครบ (บอกเลยว่ามีหลายหน้ามาก ๆ ต้องเช็กให้แน่ใจว่าทำครบทุกหน้า) แล้วกด save ไปเรื่อย ๆ จนมั่นใจว่ากรอกข้อมูลครบถ้วนจึงค่อยกดส่งข้อมูลไปยังสถานทูต เมื่อทำขั้นตอนครบก็จะเป็นการชำระค่าวีซ่า (ชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น) จากนั้นจึงเป็นการนัดหมายกับ VFS ผ่านทางออนไลน์ เพื่อนัดวันยื่นเอกสาร และควรปริ๊นซ์ Application Form นี้ไว้ยื่นในวันนัดรับเอกสารด้วย 

2. ใบนัดหมาย VFS 

ให้นำใบนัดหมายกับ VFS ไปในวันยื่นเอกสารด้วย แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ใช้ แต่เผื่อได้ใช้ยื่นเป็นหลักฐานว่ามีการนัดหมายตามวันและเวลาดังกล่าวจริง 

3. Declaration Signed 

เอกสารตัวนี้จะมาพร้อมกับใบสมัครออนไลน์ จะต้องปริ๊นซ์และเซ็นต์ชื่อให้เรียบร้อยก่อนส่งเอกสาร 

4.Passport 

จะต้องเตรียม Passport หรือ หนังสือเดินทางเล่มจริงที่มีวันเดินทางเหลือเกิน 6 เดือน หากเหลือวันน้อยกว่าดังกล่าว ควรไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ก่อนถึงวันนัดยื่นเอกสารอย่างน้อย 1 สัปดาห์ (เพราะต้องเผื่อวันได้พาสปอร์ตเล่มใหม่ประมาณ 3-7 วัน)  และอาจถ่ายสำเนาไว้บางส่วน หากมีหลายเล่มก็ควรนำไปด้วย เมื่อยื่นเอกสาร ส่วนใหญ่ทางเจ้าหน้าที่จะเก็บพาสปอร์ตเล่มล่าสุดที่จะใช้วันเดินทางไว้ และคืนเล่มอื่น ๆ ให้กับเรา (และเมื่อพิจารณาผลเสร็จเรียบร้อยจะได้รับเล่มพาสปอร์ตคืน) 

5. สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน 

ต้องเซ็นต์รับรองเอกสารทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนส่งยื่น และจะได้รับคืนหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและพิจารณา 

6. Statenment 

Statement คือ รายการเดินบัญชีธนาคาร โดยจะต้องใช้สเตทเม้นท์ บัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งจะใช้ตัวจริงเท่านั้น และจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ 

7. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 และหนังสือรับรองเงินเดือนภาษาอังกฤษ 

สลิปเงินเดือนและหนังสือรับรองเงินเดือนเป็นเอกสารสำคัญ สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวแบบผู้มีรายได้ เพราะเป็นหลักฐานยืนยันมีงานทำในประเทศไทยจริง ๆ และฐานเงินเดือนของเราก็เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง (โดยฐานเงินเดือนจะต้องมี 15,000 บาทขึ้นไป) 

8. Bank certificate หรือ Account information summary 

Bank certificate หรือ Account information summary คือ หนังสือรับรองจากธนาคารว่าเรามีบัญชีอยู่กับธนาคารนี้อยู่จริง และจะต้องรับรองการฝากเงินเป็นสกุลเงินปอนด์ โดยมีค่าธรรมเนียมในการขอหนังสือรับรอง 100 บาท 

9. รูปถ่าย 

มักจะมีคนแนะนำให้นำรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ หน้าตรง ไม่ยิ้ม หลังพื้นสีขาว ไม่มันความ ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนไปด้วย แต่ของเราไปถ่ายในวันที่ยื่นเอกสารกับทาง VFS  โดยเจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายรูปให้เราในขั้นตอนที่ต้องสแกนนิ้ว (เจ้าหน้าที่จะเรียกอีกครั้งหลังจากยื่นเอกสารทั้งหมด) 

10. ตั๋วเครื่องบิน หรือ ใบจองตั๋วเครื่องบิน 

แนะนำว่าควรเป็นใบจองตั๋วเครื่องบิน อย่าทำการจองตั๋วจริงใด ๆ จนกว่าจะได้วีซ่าก่อนจึงค่อยไปซื้อตั๋วจริงนะคะ เผื่อเอกสารไม่ครบหรือเอกสารไม่ผ่าน จะทำให้เสียค่าตั๋วฟรี เราก็ใช้ใบจองตั๋ว แสดงวันเดินทางจากกรุงเทพไปปลายทางที่อังกฤษ (จะลงสนามบินเมืองไหนก็แจ้งตามนั้น) และไม่ต้องห่วง เจ้าหน้าที่จะทำการคืนให้เราหลังจากพิจารณาข้อมูลในวันนั้นเลยค่ะ 

11. Cover Letter 

จดหมายแนะนำตัว ว่าเราเป็นใคร ทำงานที่ไหน มีวัตถุประสงค์ไปอังกฤษเพื่ออะไร จะเดินทางกลับไทยเมื่อไร หากอยากเขียนอะไรเพิ่มเติมก็สามารถเขียนได้ แต่ไม่ควรเยิ่นเย้อมาก ควรให้กระชับ ชัดเจน และเข้าใจง่าย เพราะงานสถานทูตล้นมือ หากเยอะเกินไป อาจโดนปัดตกก่อนได้รับพิจารณา 

12. ใบจองโรงแรม 

เช่นเดียวกับใบจองตั๋วเครื่องบิน และควรเลือกโรงแรมที่สามารถจองได้โดยยังไม่ต้องจ่ายเงิน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เลื่อนวันเดินทาง หรือเปลี่ยนสถานที่พัก จะได้ไม่เกิดความยุ่งยากหลังจากได้วีซ่า

13. แผนการเดินทาง 

จะต้องเขียนรายละเอียดแผนการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ โดยวันที่ไปและวันที่เข้าพักโรงแรมจะต้องตรงกัน รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างการท่องเที่ยวในอังกฤษจะต้องสัมพันธ์กับจำนวนเงินในบัญชีธนาคารที่ได้แจ้งไว้ในเอกสารและแบบฟอร์ม 

14. เอกสารต่าง ๆ 

เอกสารที่จะช่วยยืนยันเพิ่มเติมว่ายังไงเราก็ต้องเดินทางกลับมาเมืองไทยแน่นอน เช่น เอกสารครอบครัว เกี่ยวกับบุตร สามี ภรรยา พ่อแม่ โฉนดที่ดิน ใบแสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน บ้าน รถ หรือชำระหนี้ต่าง ๆ  เป็นต้น (ถ้ามี) แต่ของเราที่ใช้ เราใช้เพียงสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของพ่อค่ะ เพื่อยืนยันว่าเรามีครอบครัวที่ยังต้องรับผิดชอบดูแลอยู่ ยังไงก็ทิ้งไปไหนไม่ได้แน่นอน 

หลังจากที่เตรียมเอกสารทั้งหมดครบเรียบร้อย ก็รอไปยื่นเอกสารตามวันและเวลาที่นัดหมายไว้กับ VFS ทางออนไลน์ก่อนหน้านี้ สถานที่ VFS อยู่ที่ ชั้น 28 อาคาร Trendy ซอยสุขุมวิท 13 เมื่อไปถึงอาคาร ควรทำการปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนขึ้นไปยังชั้น 28 เมื่อขึ้นไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ด้านหน้าทำการตรวจสิ่งของ ก่อนอนุญาตให้เข้าไปยื่นเอกสารกัยเจ้าหน้าที่ด้านใน โดยเขาจะปล่อยให้เข้าเป็นรอบเวลาตามใบนัด จึงจำเป็นต้องไปให้ตรงกับรอบเวลานัดของตัวเอง ให้ดีไปถึงก่อนเวลานัดประมาณ 10-15 นาที ยิ่งดีค่ะ 

เจ้าหน้าที่เป็นคนไทยทั้งหมด หากมีข้อสงสัยอะไร สามารถสอบถามได้เลย และหลังจากยื่นเอกสารเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะให้รอเพื่อทำการเรียกอีกครั้งเพื่อเข้าไปทำการสแกนนิ้วและถ่ายรูป เมื่อเสร็จสิ้นเราก็จะออกมาเพื่อรอรับเอกสารที่ยื่นไปทั้งหมดคืน และจะให้เราเลือกว่ามารับเล่มพาสปอร์ตเองหรือให้ส่งไปรษณีย์ หากเลือกให้จัดส่งก็จะมีค่าจัดส่งที่ต้องชำระ จากนั้นก็กลับบ้านได้ค่ะ รอประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ ประมาณ 15 วัน จะมีการแจ้งผลทางอีเมล์ แต่เนื่องจากเราเลือกให้จัดส่งเล่มพาสปอร์ต เราก็ได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่าอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศอังกฤษหลังจากยื่นเอกสารประมาณ 2 สัปดาห์ (ระยะเวลาการรอผลพิจารณาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรอบ) ซึ่งนี่ก็คือประสบการณ์การขอยื่นวีซ่าอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยวของเราที่นำมาแบ่งปันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้สำหรับใครที่กำลังลังเลจะยื่นวีซ่าอังกฤษดีไหม หรือจะต้องยื่นวีซ่ายังไงดี หากไปอังกฤษแบบนักท่องเที่ยวแบบเรา และมีคุณสมบัติคือเป็นพนักงานประจำแบบเรา ก็สามารถใช้เอกสารตามที่เรานำมาแชร์ได้เลยค่ะ ขอให้ทุกคนโชคดี แล้วเจอกันที่อังกฤษนะคะ 

(Visited 5 times, 1 visits today)
Close