โปรดักทีฟ นิวส์ – รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing" https://productivenews.com/ บทความ Digital Marketing จากเว็บไซต์ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ ให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาด ไม่ว่าจะเป็น Analytics, Planning, Trends. Wed, 22 Jan 2025 08:24:22 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.7.1 https://productivenews.com/wp-content/uploads/2023/05/p-05.png โปรดักทีฟ นิวส์ – รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing" https://productivenews.com/ 32 32 Jagat คืออะไร? ได้เงินจริงไหม? อันตรายหรือไม่? https://productivenews.com/jagat-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3/ https://productivenews.com/jagat-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3/#respond Wed, 22 Jan 2025 08:24:19 +0000 https://productivenews.com/?p=7047 Jagat คืออะไร? ให้เงินจริงหรือไม่? และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Jagat พร้อมสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้งาน

The post Jagat คืออะไร? ได้เงินจริงไหม? อันตรายหรือไม่? appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา Jagat ได้กลายเป็นแอปพลิเคชันที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่แอปฯ นี้คืออะไร? ให้เงินจริงหรือไม่? และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Jagat พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจใช้งาน

Jagat คืออะไร?

Jagat เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการผสมผสานการใช้งานในรูปแบบโซเชียลมีเดียทั่วไป เช่น การแชร์รูปภาพ วิดีโอ และข้อความ รวมถึงการโต้ตอบกับผู้ใช้อื่น ๆ กับระบบสะสมเหรียญดิจิทัลที่สามารถนำไปแลกเป็นของรางวัลหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Jagat ได้แก่:

  1. การสะสมเหรียญดิจิทัล:
    ผู้ใช้จะได้รับเหรียญจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแอปฯ เช่น
    • การโพสต์เนื้อหา
    • การแสดงความคิดเห็น
    • การเชิญชวนเพื่อนมาใช้งาน
  2. รางวัลที่หลากหลาย:
    เหรียญที่สะสมสามารถนำไปแลกเป็นสินค้า ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษ เช่น บัตรกำนัลหรือไอเทมพิเศษในแอปฯ
  3. การเชื่อมต่อกับชุมชน:
    ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อและโต้ตอบกับผู้อื่นได้ง่ายดาย เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำ

ได้เงินจริงไหม?

หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือ Jagat สามารถทำเงินได้จริงหรือไม่? คำตอบคือ ในบางกรณีผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลที่สะสมในแอปฯ ให้กลายเป็นมูลค่าได้จริง เช่น การแลกรับบัตรกำนัล ส่วนลด หรือสินค้า อย่างไรก็ตาม ระบบการทำงานนี้ไม่ได้แปลว่าผู้ใช้จะได้รับ “เงินสด” โดยตรง

สิ่งที่ควรระวังคือ ระบบของรางวัลหรือการแลกเหรียญอาจมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม เช่น ต้องสะสมเหรียญในปริมาณที่มากพอก่อนจึงจะสามารถแลกรับของรางวัลได้ หรือบางครั้งของรางวัลอาจจำกัดจำนวนและอาจหมดเร็ว

Jagat อันตรายหรือไม่?

แม้ว่า Jagat จะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน แต่ก็ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ ความปลอดภัย ที่ผู้ใช้ควรระมัดระวัง:

  1. การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว:
    แอปพลิเคชันนี้อาจขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง รายชื่อผู้ติดต่อ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
  2. โฆษณาที่ไม่เหมาะสม:
    มีรายงานเกี่ยวกับการแสดงโฆษณาที่อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสมหรือเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
  3. ความเสี่ยงจากการใช้งานเหรียญดิจิทัล:
    การสะสมเหรียญในแอปฯ อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม หรืออาจเผลอซื้อสินค้าโดยไม่ตั้งใจ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบก็ยังไม่พบว่า Jagat มีการตรวจพบจากแพลตฟอร์มตรวจมัลแวร์เจ้าต่าง ๆ และก็ยังไม่เคยมีข่าวว่าข้อมูลรั่วไหลแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะมันเป็นแอปฯ น้องใหม่ที่ต้องรอเวลาพิสูจน์ตัวเองก็เป็นได้

มาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าแอปฯ มันก็ดูน่าเชื่อถือ แถมยังมีฐานผู้ใช้นับ 10 ล้านคนทั่วโลก แต่เราก็เห็นแล้วว่าหลายแอปฯ ที่ยอดผู้ใช้หลักล้านก็ถูกนำไปซ่อนมัลแวร์เอาไว้จนคนโดนหลอกมาเยอะแล้ว

อีกทั้งการที่แอปฯ สัญญาจะแจกเงินจำนวนมากถึงหลักแสน ก็อาจทำให้หลายคนฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า แล้วรายได้หลักของแอปฯ มาจากอะไร เอาเงินจากส่วนไหนมาแจกเป็นรางวัล นอกจากค่าไอเทมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในไทย หากนับจากมูลค่าเงินรางวัลและจำนวนเหรียญที่มีอยู่ถึง 800 เหรียญ รวมมูลค่ากันก็ทะลุ 1 ล้านบาทแล้ว ที่สำคัญผู้พัฒนาได้อะไรจากการทำสิ่งนี้ นอกจากการโปรโมตแอปฯ เพียงอย่างเดียว

วิธีใช้งาน Jagat อย่างปลอดภัย

เพื่อให้การใช้งาน Jagat ปลอดภัยและสนุกสนาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

  1. ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว:
    ตรวจสอบและจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของแอปฯ อย่างเหมาะสม
  2. หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลสำคัญ:
    ห้ามให้ข้อมูลที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคารหรือรหัสผ่าน
  3. ตรวจสอบเงื่อนไขของรางวัล:
    อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการแลกเหรียญหรือรับรางวัลอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
  4. อ่านรีวิวจากผู้ใช้รายอื่น:
    ศึกษาความเห็นจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของแอปฯ

สรุป

Jagat เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่มีจุดเด่นในเรื่องของการสะสมเหรียญดิจิทัลและระบบรางวัลที่เพิ่มความสนุกสนานในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรตระหนักถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว พร้อมทั้งตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ ให้รอบคอบ

แม้ว่า Jagat จะไม่ใช่แอปฯ ที่ “ได้เงินจริง” ในรูปแบบเงินสด แต่สามารถมอบคุณค่าในรูปแบบของรางวัลและสิทธิพิเศษได้ หากใช้งานอย่างเหมาะสม Jagat จะกลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ช่วยเติมเต็มความสนุกและสร้างความเชื่อมโยงกับชุมชนออนไลน์ในยุคดิจิทัลได้อย่างน่าสนใจ

The post Jagat คืออะไร? ได้เงินจริงไหม? อันตรายหรือไม่? appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/jagat-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3/feed/ 0 7047
ส่องธุรกิจมาแรงปี 2024 มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ https://productivenews.com/%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b5-2024/ https://productivenews.com/%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b5-2024/#respond Wed, 27 Dec 2023 02:30:29 +0000 https://productivenews.com/?p=7035 ใกล้ปี 2024 เข้ามาทุกที สำหรับผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ต้องการหารายได้ สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง มาดูกันว่ามีเทรนด์สินค้าอะไรที่น่าสนใจบ้างนะ โดยเทรนด์ธุรกิจปี 2024 เป็นรูปแบบธุรกิจมีความโดดเด่น ให้ความสำคัญการใส่ใจผู้บริโภคทุกช่วงวัย ใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม ลดช่องว่างความแตกต่างของช่วงวัย และตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ productivenews จึงขอนำมาบอกเล่าเพื่อเป็นประโยชน์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งธุรกิจมาแรงปี 2024 มีอะไรที่น่าจับตามองบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ  1. เทรนด์สินค้ารักษ์โลก  เทรนด์สินค้ารักษ์โลกได้รับความนิยมของผู้บริโภคมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2023 ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มหันมายึดเป็นหลักในการผลิตสินค้า เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของตัวเองเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดปริมาณขยะ ลดการสูญเสียทรัพยากร ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เพิ่มการรีไซเคิล การใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน ทำให้สินค้าและบริการที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม มีจริยธรรมในการทำธุรกิจ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และคาดว่าอาจยาวไปถึงปี 2025 หรือยาวนานกว่านั้น  2. เทรนด์ Aging Societies  จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีประชากรไทยที่เป็นผู้สูงวัยเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงประชากรทั่วโลก ซึ่งสังคมผู้สูงวัย Aging Societies เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งไลฟ์สไตล์ผู้สูงวัยในปัจจุบันแตกต่างไปจากยุคก่อน …

The post ส่องธุรกิจมาแรงปี 2024 มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
ใกล้ปี 2024 เข้ามาทุกที สำหรับผู้ประกอบการ หรือผู้ที่ต้องการหารายได้ สร้างธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง มาดูกันว่ามีเทรนด์สินค้าอะไรที่น่าสนใจบ้างนะ โดยเทรนด์ธุรกิจปี 2024 เป็นรูปแบบธุรกิจมีความโดดเด่น ให้ความสำคัญการใส่ใจผู้บริโภคทุกช่วงวัย ใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม ลดช่องว่างความแตกต่างของช่วงวัย และตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ productivenews จึงขอนำมาบอกเล่าเพื่อเป็นประโยชน์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งธุรกิจมาแรงปี 2024 มีอะไรที่น่าจับตามองบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 

1. เทรนด์สินค้ารักษ์โลก 

เทรนด์สินค้ารักษ์โลกได้รับความนิยมของผู้บริโภคมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2023 ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มหันมายึดเป็นหลักในการผลิตสินค้า เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของตัวเองเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดปริมาณขยะ ลดการสูญเสียทรัพยากร ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เพิ่มการรีไซเคิล การใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน ทำให้สินค้าและบริการที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม มีจริยธรรมในการทำธุรกิจ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และคาดว่าอาจยาวไปถึงปี 2025 หรือยาวนานกว่านั้น 

2. เทรนด์ Aging Societies 

จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีประชากรไทยที่เป็นผู้สูงวัยเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงประชากรทั่วโลก ซึ่งสังคมผู้สูงวัย Aging Societies เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งไลฟ์สไตล์ผู้สูงวัยในปัจจุบันแตกต่างไปจากยุคก่อน ๆ มีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี การทำกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ เลือกรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การทานอาหารเสริม เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย รวมไปถึงสันทนาการที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพทางด้านจิตใจ ทำให้กลุ่มผู้สูงวัยต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยตอบโจทย์กับชีวิตประจำวันหลากหลายรูปแบบกว่าแต่ก่อน 

3. เทรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพ 

เทรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพ ที่ finbiz by ttb ได้เผยแพร่เป็นเทรนด์ธุรกิจที่ต่อเนื่อง โดยด้านส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์รวมถึงการบริการ มีความปลอดภัย สะอาด ถูกสุขอนามัย เป็นสิ่งที่ธุรกิจจะต้องให้ความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ขั้นตอนการผลิต บรรจุภัณฑ์ บริการระหว่างการซื้อ-ขาย จะต้องคำนึงถึงความสะดวกและสะอาดเป็นหลัก ลดการปนเปื้อน เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารที่กักเก็บสินค้าได้มิดชิด ลดโอกาสการปนเปื้อน หรือออกแบบให้เปิดออกรับประทานได้เลย เพื่อลดการสัมผัส หรือมีการสัมผัสน้อยที่สุด เป็นต้น 

4. เทรนด์ Pet Parents 

เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เพิ่มสูงขึ้น ด้วยหลากหลายเหตุผล ทั้งเลี้ยงสัตว์แทนการมีบุตร เลี้ยงสัตว์เพื่อบำบัดจิตใจ เลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ซึ่งนอกจากการเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว สัตว์อื่น ๆ ก็ได้รับความนิยม เช่น นก เต่า หนู กระรอก กระต่าย ปลาสวยงาม หรือสัตว์แปลก ๆ อย่าง งู อีกัวน่า ชินชิล่า แพรี่ด็อก เป็นต้น ส่งผลให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของเล่น รวมไปถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง อย่าง บริการรับฝากเลี้ยง บริการอาบน้ำ ตัดขน โรงแรมสัตว์เลี้ยง คาเฟ่สำหรับสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงคลินิกสัตว์ที่บริการทำหมันสัตว์เลี้ยง ฉีดวัคซีน ดูแลรักษาโรคสัตว์เลี้ยง มีการเปิดให้บริการมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะต้องมีการรับรองถึงความสะอาด ถูกสุขอนามัย และปลอดภัยต่อการใช้งาน จึงจะถือว่าครองใจผู้เลี้ยงสัตว์หันมาเลือกใช้บริการและเลือกซื้อสินค้า 

5. เทรนด์ความปลอดภัยจากการใช้ AI 

เนื่องจากปัจจุบัน เทคโนโลยี AI เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวัน และการทำงานของคนเรามากขึ้น จนแทบจะแยกไม่ออก เพราะผลจากการพัฒนา AI ทำให้เกิดประโยชน์มนุษย์ในด้านต่าง ๆ แต่ด้วยความฉลาดล้ำของ AI อาจมีทักษะและความสามารถใกล้เคียงหรือมากกว่ามนุษย์ในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย การพัฒนาระบบ AI ของธุรกิจควรใส่ใจถึงขอบเขตที่จะไม่ส่งผลต่อการจ้างงานหรือละเมิดสิทธิของมนุษย์  และจะต้องมีแผนในการรับมือกับสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเกิดขึ้นในอนาคต 

6. เทรนด์ ความจางลงของช่องว่างระหว่าง Gen 

การตลาดในยุคก่อน ๆ จะมุ่งเน้นถึง Generation ของผู้บริโภค หรือผู้ที่ได้รับบริการ แต่สิ่งเหล่านี้ลดลงเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ผู้คนมีความกล้า มั่นใจ และมีความเป็นตัวเองมากขึ้น รวมถึงการเปิดเผยและแสดงตัวตน มากกว่าการสนใจกระแสสังคม ธุรกิจที่จะมาตอบโจทย์ของเทรนด์นี้ จึงต้องมีความชัดเจน มีจุดยืนของแบรนด์ และมีลักษณะเฉพาะตน ไม่อิงกับกระแสนิยมหมู่มาก ตรงกับเป้าหมาย ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะ 

ทั้งหมดนี้คือเทรนด์ธุรกิจปี 2024 ที่น่าจับตามอง สำหรับใครที่กำลังสนใจหาแนวธุรกิจเพื่อต่อยอดกิจการเดิม หรือนำไปประกอบเป็นอาชีพ หารายได้ ลองหารูปแบบธุรกิจที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตลการลงทุนของตนเอง และตรงกับเป้าหมายกลุ่มลูกค้าดูค่ะ ไม่แน่ว่า ธุรกิจของคุณอาจเติบโตอย่างรวดเร็ว และสร้างรายได้มหาศาลให้กับคุณในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้ 

The post ส่องธุรกิจมาแรงปี 2024 มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b5-2024/feed/ 0 7035
วิธีดูแลแมวหลังทำหมัน พร้อมแนะนำสถานที่ทำหมันแมวฟรี ในกรุงเทพ    https://productivenews.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%9e/ https://productivenews.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%9e/#respond Wed, 22 Nov 2023 06:10:40 +0000 https://productivenews.com/?p=7031 สำหรับผู้ที่เพิ่งจะพาน้องแมวไปทำหมันมา (คลิก:เมื่อไรที่ควรทำหมันแมว) แล้วต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลน้องแมวหลังทำหมัน และหลังจากที่น้องแมวทำหมันกี่วัน ปล่อยได้ให้เป็นอิสระ โดยที่จะไม่เกิดผลกระทบกับแผล Productivenews จึงได้นำวิธีดูแลแมวหลังทำหมัน พร้อมกับแนะนำสถานที่ทำหมันฟรี สำหรับใครที่กำลังวางแผลจะพาน้องแมวไปทำหมัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่อาจต้องใช้เวลาในการรอคิว สามารถติดต่อไปสอบถามและจองคิวล่วงหน้าก่อนได้ มีที่ไหนบ้าง ตามมาเลยค่ะ  แมวตัวผู้ทำหมันกี่วันปล่อยได้ และแมวตัวเมียทำหมันกี่วันหาย  แผลผ่าตัดแมวตัวผู้มักมีขนาดเล็ก ให้พักฟื้นเต็มที่ ก็จะฟื้นตัวได้เร็ว ประมาณ 5 – 7 วัน แต่ถ้ามีแผลเปิดหลายจุด อาจต้องใช้เวลาประมาณ 10 – 14 วัน ส่วนแมวตัวเมียหลังทำหมัน ให้น้องแมวพักฟื้นในกรงก่อน จนกว่าจะตัดไหม เพื่อป้องกันแผลแตกและการติดเชื้อ ดังนั้น เพื่อให้น้องแมวมีอาการปลอดภัยหลังจากทำหมัน ควรดูแลแมวตามที่สัตวแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด การดูแลแมวหลังทำหมัน  หลังทำหมัน นิสัยแมวเปลี่ยนไป  หลังจากที่ทำหมัน นิสัยของแมวอาจเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมที่แปลกไป มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแมวแต่ละตัว ส่วนใหญ่น้องแมวจะกินและนอนมากขึ้น ไม่ค่อยหนีออกนอกบ้าน อยู่ติดบ้านมากขึ้น ทำกิจกรรมโลดโผนน้อยลง อาจทำให้แมวอ้วนขึ้นได้ จึงควรควบคุมอาหาร โดยให้กินอาหารเป็นเวลา เลือกอาหารสูตรแมวเลี้ยงระบบปิด และหาของเล่นต่าง …

The post วิธีดูแลแมวหลังทำหมัน พร้อมแนะนำสถานที่ทำหมันแมวฟรี ในกรุงเทพ    appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
สำหรับผู้ที่เพิ่งจะพาน้องแมวไปทำหมันมา (คลิก:เมื่อไรที่ควรทำหมันแมว) แล้วต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลน้องแมวหลังทำหมัน และหลังจากที่น้องแมวทำหมันกี่วัน ปล่อยได้ให้เป็นอิสระ โดยที่จะไม่เกิดผลกระทบกับแผล Productivenews จึงได้นำวิธีดูแลแมวหลังทำหมัน พร้อมกับแนะนำสถานที่ทำหมันฟรี สำหรับใครที่กำลังวางแผลจะพาน้องแมวไปทำหมัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่อาจต้องใช้เวลาในการรอคิว สามารถติดต่อไปสอบถามและจองคิวล่วงหน้าก่อนได้ มีที่ไหนบ้าง ตามมาเลยค่ะ 

แมวตัวผู้ทำหมันกี่วันปล่อยได้ และแมวตัวเมียทำหมันกี่วันหาย 

แผลผ่าตัดแมวตัวผู้มักมีขนาดเล็ก ให้พักฟื้นเต็มที่ ก็จะฟื้นตัวได้เร็ว ประมาณ 5 – 7 วัน แต่ถ้ามีแผลเปิดหลายจุด อาจต้องใช้เวลาประมาณ 10 – 14 วัน ส่วนแมวตัวเมียหลังทำหมัน ให้น้องแมวพักฟื้นในกรงก่อน จนกว่าจะตัดไหม เพื่อป้องกันแผลแตกและการติดเชื้อ ดังนั้น เพื่อให้น้องแมวมีอาการปลอดภัยหลังจากทำหมัน ควรดูแลแมวตามที่สัตวแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด

การดูแลแมวหลังทำหมัน 

  • ที่พักฟื้นของน้องแมวจะต้องสะอาด ปลอดภัย เพื่อป้องกันน้องแมวแอบหนีออกไปซุกซนเมื่อฟื้นขึ้น และป้องกันอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจกระทบกับแผลทำหมันแมว
  • หากน้องแมวยังนอนสลบอยู่ ควรจัดท่านอนให้เหยียดตรง คอยืดตรง ไม่พับงอ เพื่อให้น้องแมวหายใจได้สะดวก 
  • ไม่ควรป้อนน้ำและอาหารขณะที่แมวยังไม่รู้สึกตัว เพราะเสี่ยงที่จะทำให้แมวสำลักและเป็นอันตรายได้ ควรป้อนเมื่อแมวฟื้นเต็มที่แล้วเท่านั้น 
  • ใส่ยาทาแผลสด หรือ เบตาดีน ทุกวัน ป้อนยา และฉีดยาแก้อักเสบตามที่สัตวแพทย์สั่ง หรือพาไปให้แพทย์ฉีดให้ตามนัด 
  • หาแนวป้องกันกันไม่ให้แมวกระโดด เพราะแผลผ่าตัดทำหมันอาจแตกและติดเชื้อได้ ทางที่ดีควรให้อยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น อยู่ในกรง จนกว่าถึงวันกำหนดตัดไหม 
  • ห้ามให้แผลถูกน้ำ ห้ามให้แมวเลียแผล ควรใส่เสื้อ หรือ ใส่คอลล่าป้องกันแมวเลียและแทะแผล
  • พาไปตัดไหมเมื่อครบตามสัตวแพทย์กำหนด 
  • หากแผลมีหนอง มีกลิ่นเหม็น แผลแตก หรือไหมเย็บแผลขาดก่อนวันกำหนดตัดไหม ควรรีบพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที 

หลังทำหมัน นิสัยแมวเปลี่ยนไป 

หลังจากที่ทำหมัน นิสัยของแมวอาจเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมที่แปลกไป มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแมวแต่ละตัว ส่วนใหญ่น้องแมวจะกินและนอนมากขึ้น ไม่ค่อยหนีออกนอกบ้าน อยู่ติดบ้านมากขึ้น ทำกิจกรรมโลดโผนน้อยลง อาจทำให้แมวอ้วนขึ้นได้ จึงควรควบคุมอาหาร โดยให้กินอาหารเป็นเวลา เลือกอาหารสูตรแมวเลี้ยงระบบปิด และหาของเล่นต่าง ๆ มาไว้ให้น้องแมวได้ทำกิจกรรม ได้เล่น หรือปีนป่าย เพื่อให้มีการขยับตัว ออกกำลังกายบ้าง  

สถานที่ทำหมันแมวฟรี เขตกทม. โดยสามารถติดต่อไปสอบถามและนัดล่วงหน้าก่อนได้ มีดังนี้ 

  • ศูนย์บริการสาธารณสุข (วัดธาตุทอง) โทร  02 – 381 – 6659 หรือ 02 – 391 –  6082 
  • ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 (สี่พระยา) โทร  02 – 236 4055 ต่อ 213 
  • ศูนย์บริการสาธารณสุข 24 (บางเขน)  โทร  02 – 579 – 1342 
  • ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 (ช่วงนุช – เนตร)  โทร  02 – 468 – 2570 หรือ  02 – 476 – 6493 
  • ศูนย์บริการสาธารณสุข 33 (วัดหงส์รัตนาราม)  โทร  02 – 472 – 5895 – 6 ต่อ 109 
  • ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 (มีนบุรี) โทร  02 – 543 – 7334  หรือ  02 – 914 – 5822 
  • ศูนย์ควบคุมพาหะนำโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ เขตดอนเมือง โทร 02 – 929 – 9021 – 104 
  • กองระบาดวิทยา บางกอกน้อย โทร 02 – 411 – 2432 
  • ฝ่ายควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ดินแดง โทร 02 – 245 – 3311

The post วิธีดูแลแมวหลังทำหมัน พร้อมแนะนำสถานที่ทำหมันแมวฟรี ในกรุงเทพ    appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%9e/feed/ 0 7031
ประโยชน์ของฟักทองที่มากกว่าเพียงแค่แต่งผีฮาโลวีน https://productivenews.com/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b9%8c-%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87/ https://productivenews.com/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b9%8c-%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87/#respond Mon, 30 Oct 2023 08:26:42 +0000 https://productivenews.com/?p=7020 ประโยชน์ของฟักทองคืออะไร? การทานฟักทอง ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง? ทานฟักทองแล้วตัวเหลืองจริงหรือ? บทความนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว

The post ประโยชน์ของฟักทองที่มากกว่าเพียงแค่แต่งผีฮาโลวีน appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
เมื่อถึงเทศกาลฮาโลวีน เราก็มักจะเห็นมีการนำ ฟักทอง มาฉลุลวดลายให้เป็นรูปหน้าผี แล้วใช้ประดับสถานที่ต่าง ๆ แต่รู้อยากรู้ไหมว่ากิน ฟักทอง ดีไหม ห้ามกินฟักทองบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ตัวเหลือง สิ่งเหล่านี้ที่มักได้ยินกันมาจะจริงหรือเปล่าน้าาา ไหน ๆ ก็เข้าช่วงเทศกาลพอดี เรามาหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ

ประโยชน์ของฟักทอง

ฟักทอง เป็นพืชตระกูลมะระ ซึ่งเป็นไม้เถาขนาดใหญ่ ลักษณะผิวขรุขระ เปลือกแข็ง เนื้อสีเหลืองสด สามารถรับประทานได้แทบทุกส่วน ตั้งแต่เปลือก เนื้อ เมล็ด ใบ ไปจนถึงรากฟักทอง

  • เปลือกฟักทอง มีฤทธิ์ทางยามากมาย หากทานฟักทองทั้งเปลือก จะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินใน่ร่างกาย ควบคุมน้ำตาลในเลือด บำรุงดวงตา บำรุงตับ บำรุงไต ป้องกันโรคความดันโลหิต เบาหวาน และยังช่วยสร้างเซลล์ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่ตายแล้วอีกด้วย 
  • เนื้อฟักทอง มีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม 
  • และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจ ป้องกันโรคผิวหนัง และต่อต้านความชรา บรรเทาอาการปวดเมื่อยข้อเข่าและบั้นเอวได้เป็นอย่างดี 
  • เมล็ดฟักทอง มีโปรตีน ฟอสฟอรัส วิตามิน แป้ง และ สารเคอร์บิติน (cucurbitine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืดได้ อีกทั้งยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ น้ำมันในเมล็ดฟักทองมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยบำรุงประสาท ช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายจากลูกอัณฑะให้เป็นปกติ ป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น 
  • ใบอ่อนฟักทอง มีวิตามินเอในปริมาณพอ ๆ กับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าเนื้อฟักทอง (นิยมใช้ลวกจิ้มน้ำพริก หรือเป็นผักเคียง)
  • ดอกฟักทอง มีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และ ฟอสฟอรัส (สามารถกินเป็นผักลวกจิ้ม หรือตกแต่งอาหารได้) 
  • เยื่อกลางผล ใช้พอกแผล บรรเทาอาการปวด แก้อาการอักเสบ ฟกช้ำได้ 
  • รากฟักทอง นำไปต้มใช้ดื่มแก้อาการไอ ช่วยบำรุงร่างกาย และถอนพิษฝิ่นได้ 
Spoon with seeds in a hand, pumpkin halves on a table on a blue background horizontal

ฟักทองกับเพศหญิง 

ฟักทองมีใยอาหารหรือไฟเบอร์สูง แต่มีแคลอรี่และให้พลังงานต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะที่จะเป็นอาหารของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือต้องควบคุมน้ำหนักตัว วิตามินหลายชนิดในฟักทองช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง และสำหรับสตรีหลังคลอดบุตร ฟักทองจะช่วยบำรุงกำลัง ลดอาการปวดและการอักเสบหลังคลอดได้ดี 

ฟักทองช่วยลดอาการไอ ขับเสมหะ บรรเทาอาการหอบหืดที่เกิดจากหลอดลมอักเสบเรื้อรังในผู้สูงอายุ ช่วยบำรุงกำลังได้เป็นอย่างดีในผู้ที่มีม้ามและปอดอ่อนแอ อีกทั้งคาร์โบไฮเดรตในฟักทองช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนบนได้ ฤทธิ์อุ่นของฟักทองจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพดี แก้ปวดได้อีกด้วย

การทานฟักทอง ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง?

คนที่กระเพาะร้อน คือ มักจะมีอาการกระหายน้ำ หิวบ่อย ปากมีกลิ่นเหม็น มีแผลในช่องปาก เหงือกบวม ท้องผูก ปัสสาวะเหลือง ควรระมัดระวังในการทานฟักทอง หรือแม้แต่ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงปกติ ก็ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไปเช่นกัน เพราะฟักทองมีฤทธิ์อุ่น อาจกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้น หรือเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ รู้สึกไม่สบายท้องได้ 

raw pieces of pumpkin on a cutting board with rosemary, salt, spice on old dark table. Vegetable prepared for baking in the oven. Autumn home cooking

ทานฟักทองแล้วตัวเหลืองจริงหรือ?

ฟักทองอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย และเมื่อเบต้าแคโรทีนเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะถูกเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในร่างกาย

แต่ไม่เพียงแค่ฟักทองเท่านั้นที่มีเบต้าแคโรทีน แต่ยังมีพืชผักอื่น ๆ ที่มีสารชนิดนี้ เช่น แครอท ส้ม มะละกอ ลูกพืช และผักผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม ซึ่งมีสารเบต้าแคโรทีน และหากทานอาหารเหล่านี้เข้าไปจำนวนมากเกินไป สารสีส้มสีเหลืองในเบต้าแคโรทีนจะไปเกาะตามเม็ดสีผิว ส่งผลให้สีผิวของเรามีสีเหลืองมากขึ้น แต่จะไม่ทำให้ตาเหลือง และสามารถหายไปได้เองภายใน 2 – 3 สัปดาห์ เมื่อหยุดทาน และส่วนใหญ่จะพบได้ในเด็กเล็กมกากว่าวัยผู้ใหญ่ 

ร่างกายควรได้รับเบตาแคโรทีนในแต่ละวันเท่าไร?

ในแต่ละวันเราควรได้รับเบต้าแคโรทีน ประมาณ 6 – 8 มิลลิกรัม และ ไม่ควร 30 มิลลิกรัม / วัน ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารเบตาแคโรทีนได้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการโดยไม่ทำให้ตัวเหลือง

รู้ประโยชน์ของฟักทองมีดีขนาดนี้แล้ว หลังจบเทศกาลฮาโลวีน ก็นำมาทำเมนูฟักทองอร่อย ๆ กินกันต่อได้เลย เรียกได้ว่า งานนี้เราสามารถใช้ประโยชน์ฟักทองได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ 

The post ประโยชน์ของฟักทองที่มากกว่าเพียงแค่แต่งผีฮาโลวีน appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b9%8c-%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87/feed/ 0 7020
ทำหมันแมวดียังไง และเมื่อไรที่ควรทำหมันแมว https://productivenews.com/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%87-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7/ https://productivenews.com/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%87-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7/#respond Wed, 11 Oct 2023 01:25:08 +0000 https://productivenews.com/?p=7013 สำหรับทาสแมวทั้งหลาย ทั้งทาสแมวมืออาชีพ และทาสแมวน้องใหม่ อาจยังมีหลายคนที่ลังเลในเรื่องของการทำหมันน้องแมว เพราะยังไม่เข้าใจเท่าไรว่าทำหมันน้องแมวคืออะไร ทำไมจึงควรให้แมวทำหมัน วันนี้แอดมินจึงจะมาชวนทาสแมวได้รู้ถึงข้อดีของการทำหมันแมวมีประโยชน์ยังไงต่อน้องแมวของเราบ้างกันค่ะ  การทำหมันแมวคืออะไร ทำไมควรให้น้องแมวทำหมัน การทำหมันแมว คือ การควบคุมประชากรแมวไม่ให้มีมากเกินไป เป็นวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแมวจรได้ดีที่สุด เนื่องจากแมวท้อง 4 – 5 ครั้ง / ปี และการท้องของแมวแต่ละครั้งมีจำนวนลูกแมวได้ตั้งแต่ 1 – 6 ตัวเลยทีเดียว ดังนั้น หากไม่มีการควบคุมประชากรแมว ก่อให้เกิดปัญหาแมวจรมากเกินไป หรือถ้าเจ้าของแมวไม่ได้ต้องการจะเพาะพันธุ์แมว ก็อาจรับมือในการเลี้ยงน้องแมวไม่ไหว และอาจนำพาไปสู่ปัญหานำแมวไปปล่อย กลายเป็นแมวจรต่อไป และอีกเหตุผลที่ควรทำหมันแมว คือ เมื่อแมวเริ่มโตขึ้นจนถึงช่วงอายุเจริญพันธุ์ ตามธรรมชาติของแมวจะมีพฤติกรรมการติดสัด เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแมวเพศตรงข้าม โดยมีอาการต่าง ๆ เช่น ดุร้าย ก้าวร้าว ส่งเสียงหง่าว ฉี่เรี่ยราดเพื่อแสดงอาณาเขต หนีออกนอกบ้าน ซึ่งอาจได้แผลจากการต่อสู้กลับมา รวมไปถึงอาจติดโรคจากแมวตัวอื่นมาด้วย  การทำหมันแมวตัวผู้ และ การทำหมันแมวตัวเมีย  การทำหมันแมวตัวผู้ : สัตวแพทย์จะทำการผ่าเพื่อนำลูกอัณฑะและท่อนำอสุจิออก เนื่องจากอวัยวะอยู่ภายนอก แผลการผ่าตัดจากการทำหมันตัวผู้จะหายเร็ว  …

The post ทำหมันแมวดียังไง และเมื่อไรที่ควรทำหมันแมว appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
สำหรับทาสแมวทั้งหลาย ทั้งทาสแมวมืออาชีพ และทาสแมวน้องใหม่ อาจยังมีหลายคนที่ลังเลในเรื่องของการทำหมันน้องแมว เพราะยังไม่เข้าใจเท่าไรว่าทำหมันน้องแมวคืออะไร ทำไมจึงควรให้แมวทำหมัน วันนี้แอดมินจึงจะมาชวนทาสแมวได้รู้ถึงข้อดีของการทำหมันแมวมีประโยชน์ยังไงต่อน้องแมวของเราบ้างกันค่ะ 

การทำหมันแมวคืออะไร ทำไมควรให้น้องแมวทำหมัน

การทำหมันแมว คือ การควบคุมประชากรแมวไม่ให้มีมากเกินไป เป็นวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแมวจรได้ดีที่สุด เนื่องจากแมวท้อง 4 – 5 ครั้ง / ปี และการท้องของแมวแต่ละครั้งมีจำนวนลูกแมวได้ตั้งแต่ 1 – 6 ตัวเลยทีเดียว ดังนั้น หากไม่มีการควบคุมประชากรแมว ก่อให้เกิดปัญหาแมวจรมากเกินไป หรือถ้าเจ้าของแมวไม่ได้ต้องการจะเพาะพันธุ์แมว ก็อาจรับมือในการเลี้ยงน้องแมวไม่ไหว และอาจนำพาไปสู่ปัญหานำแมวไปปล่อย กลายเป็นแมวจรต่อไป และอีกเหตุผลที่ควรทำหมันแมว คือ เมื่อแมวเริ่มโตขึ้นจนถึงช่วงอายุเจริญพันธุ์ ตามธรรมชาติของแมวจะมีพฤติกรรมการติดสัด เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแมวเพศตรงข้าม โดยมีอาการต่าง ๆ เช่น ดุร้าย ก้าวร้าว ส่งเสียงหง่าว ฉี่เรี่ยราดเพื่อแสดงอาณาเขต หนีออกนอกบ้าน ซึ่งอาจได้แผลจากการต่อสู้กลับมา รวมไปถึงอาจติดโรคจากแมวตัวอื่นมาด้วย 

การทำหมันแมวตัวผู้ และ การทำหมันแมวตัวเมีย 

การทำหมันแมวตัวผู้ : สัตวแพทย์จะทำการผ่าเพื่อนำลูกอัณฑะและท่อนำอสุจิออก เนื่องจากอวัยวะอยู่ภายนอก แผลการผ่าตัดจากการทำหมันตัวผู้จะหายเร็ว 

การทำหมันแมวตัวเมีย : เป็นการผ่าตัดมดลูกและรังไข่ของแมวออกทั้ง 2 ข้าง เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องเปิดช่องท้อง ทำให้มีแผลใหญ่กว่าการทำหมันแมวตัวผู้ จึงต้องใช้เวลาในการดูแลพักฟื้นหลังผ่าตัดนานกว่า 

 ข้อดีของการทำหมันแมว

  • การทำหมันแมว ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธ์ุ เช่น มดลูกอักเสบ มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งอัณฑะ เป็นต้น 
  • การทำหมันแมวช่วยทำให้แมวมีอายุยืนยาวขึ้น เพราะมีสุขภาพดีขึ้น
  • ลดพฤติกรรมการฉี่เรี่ยราดของแมวตัวผู้
  • ลดพฤติกรรมก้าวร้าว ความดุร้าย ของแมว
  • ลดปัญหาการทะเลาะ การกัดกันเพื่อแย่งตัวเมีย 
  • ช่วยบรรเทาความทรมานของแมวเมื่อมีอาการติดสัด
  • ช่วยบรรเทาความทรมานของแมวตัวเมียจากอาการติดสัด
  • แก้ปัญหาแมวหนีออกจากบ้านเพราะอาการติดสัด 
  • ช่วยควบคุมประชากรแมวได้ดี ลดปัญหาแมวจรจัดล้นเมือง

เมื่อไรควรทำหมันแมว 

แมวตัวผู้ : สามารถทำหมันแมวตัวผู้ได้ตั้งแต่อายุ 7 – 8 เดือน หรือ อาจรอให้ไข่ลงถุงก่อน แต่ควรนำน้องแมวไปทำหมันก่อนจะมีพฤติกรรมหง่าว หรือมีอาการก้าวร้าวจากการติดสัด

แมวตัวเมีย : การทำหมันแมวตัวเมีย เริ่มทำได้ตั้งแต่น้องแมวมีอายุ 5 เดือน หรือ เมื่อแมวเริ่มมีน้ำหนักตั้งแต่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป โดยก่อนจะนำน้องแมวไปทำหมัน จะต้องตรวจสอบให้ดี ๆ ก่อนว่าแมวไม่ได้ท้อง หรือไม่มีการผสมพันธุ์มาก่อนภายในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นกรณีเป็นแม่แมวมาก่อน และต้องการให้ปิดอู่ หรือแม่แมวลูกอ่อน จะต้องรอให้ลูกแมวมีอายุ 1.5 – 2 เดือน ก่อน หรือเมื่อลูกแมวเริ่มกินอาหารเองได้แล้ว จึงค่อยพาแม่แมวไปทำหมัน 

ควรเตรียมตัวแมวอย่างไรก่อนพาไปทำหมัน 

การเตรียมตัวน้องแมวก่อนพาไปทำหมัน สามารถทำได้ดังนี้ 

  • น้องแมวต้องมีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่ป่วย ไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ 
  • ควรตรวจเลือดแมวก่อนพาไปทำหมัน เพื่อเช็กความพร้อมและสุขภาพของแมว 
  • งดการให้อาหารและน้ำแก่น้องแมว อย่างน้อย 8 – 12 ชั่วโมง เพราะจะมีการวางยาสลบแมวก่อนทำหมัน หากมีเศษอาหารหรือน้ำอยู่ในกระเพาะอาหาร แมวอาจสำลักจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ 
  • สถานที่พักฟื้นแมวหลังทำหมันควรสะอาดและปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากแมวฟื้น
  • ดูแลน้องแมวในส่วนของการใส่ยา ทาแผลสด หรือ พาแมวไปฉีดยาแก้อักเสบตามที่สัตวแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ 
  • ห้ามป้อนน้ำ ป้อนอาหารให้แมวที่ยังสลบ เพราะเสี่ยงต่อการสำลักจนอาจเป็นอันตรายแก่น้องแมวได้ จึงควรรอป้อนหลังจากน้องแมวฟื้นเต็มที่แล้วดีกว่า
  • ห้ามให้แผลถูกน้ำ ห้ามให้แมวเลียแผล โดยอาจใส่คอลล่า หรือใส่เสื้อ ป้องกันแมวเลียแผล 
  • ห้ามน้องแมวกระโดดหรือวิ่งไปมา เพราะอาจเกิดแรงสั่นสะเทือน จนทำให้แผลแตกและติดเชื้อได้ 
  • ควรนำแมวไปตัดไหมเมื่อครบ 7 – 10 วัน หรือตามที่สัตวแพทย์สั่ง 

อาการหลังทำหมันแบบไหนที่เป็นอันตราย ควรรีบพาแมวไปหาสัตวแพทย์ 

  • ไหมเย็บแผลขาด หรือหลุดรุ่ยก่อนถึงวันกำหนดตัดไหมออก 
  • แผลแตก ผ้าปิดแผลขาด จนสามารถเห็นแผลข้างใน 
  • แผลมีหนอง หรือมีกลิ่นเหม็น 
  • น้องแมวซึมมากผิดปกติ หรือไม่กินอาหารและน้ำเป็นเวลาหลายวัน

The post ทำหมันแมวดียังไง และเมื่อไรที่ควรทำหมันแมว appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%87-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7/feed/ 0 7013
การขอใช้ไฟฟ้ามีขั้นตอนอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง https://productivenews.com/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99/ https://productivenews.com/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99/#respond Wed, 04 Oct 2023 04:44:48 +0000 https://productivenews.com/?p=7003 ซื้อบ้านใหม่ หรือสร้างบ้านหลังใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีไฟ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องทำเรื่องขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าที่การไฟฟ้า ซึ่งจะต้องทำอย่างไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แอดมินมีข้อมูลมาให้ไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ  ขอไฟฟ้าต้องไปขอที่ไหน การขอใช้ไฟฟ้า จะต้องติดต่อการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจะมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการขอไฟฟ้าเหมือนกัน โดยสามารถติดต่อการไฟฟ้าในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามสถานที่ตั้งของบ้านหรืออาคารนั้น ๆ ได้เลย  เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อขอใช้ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง  1. การขอไฟฟ้าสำหรับบ้านใหม่ที่ยังไม่มีเเลขที่บ้าน ขอมิเตอร์ไฟฟ้าไม่มีเลขที่บ้าน สำหรับบ้านใหม่ต้องใช้เอกสารยื่นคำร้อง ดังนี้   2. การขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว กรณีบ้านใหม่ที่ต้องการขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวใช้เอกสารอะไรบ้าง  3. การขอใช้ไฟฟ้าโดยเจ้าบ้านไม่ได้ไปยื่นเรื่องเอง  กรณีให้ผู้อื่นดำเนินการแทนเจ้าบ้าน จะต้องเตรียมเอกสารประกอบในการยื่นเรื่อง ดังนี้  4. การขอไฟฟ้าสำหรับบ้านเช่า  เอกสารการขอใช้ไฟฟ้าในกรณีเป็นผู้เช่าบ้าน ใช้เอกสารต่อไปนี้  5. การขอไฟฟ้าสำหรับนิติบุคคล  เอกสารยื่นคำร้องขอใช้ไฟฟ้า มีดังนี้  ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไหนบ้าง

The post การขอใช้ไฟฟ้ามีขั้นตอนอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
ซื้อบ้านใหม่ หรือสร้างบ้านหลังใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีไฟ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องทำเรื่องขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าที่การไฟฟ้า ซึ่งจะต้องทำอย่างไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แอดมินมีข้อมูลมาให้ไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ 

ขอไฟฟ้าต้องไปขอที่ไหน

การขอใช้ไฟฟ้า จะต้องติดต่อการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจะมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้ในการขอไฟฟ้าเหมือนกัน โดยสามารถติดต่อการไฟฟ้าในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามสถานที่ตั้งของบ้านหรืออาคารนั้น ๆ ได้เลย 

ภาพจาก https://www.facebook.com/Provincial.Electricity.Authority/

เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อขอใช้ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง 

1. การขอไฟฟ้าสำหรับบ้านใหม่ที่ยังไม่มีเเลขที่บ้าน

ขอมิเตอร์ไฟฟ้าไม่มีเลขที่บ้าน สำหรับบ้านใหม่ต้องใช้เอกสารยื่นคำร้อง ดังนี้  

  • สำเนาบัตรประชาชน / บัตรประจำตัวราชการ / บัตรประจำตัวพนักงานองค์กรรัฐ 
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่ปัจจุบัน 
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอติดตั้งมิเตอร์ 
  • สัญญาซื้อขาย (กรณีที่ซื้อขายบ้าน) 

2. การขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว

กรณีบ้านใหม่ที่ต้องการขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวใช้เอกสารอะไรบ้าง 

  • สำเนาบัตรประชาชน 
  • สำเนาใบขออนุญาตก่อสร้าง 
  • โฉนดที่ดินสถานที่ขอใช้ไฟฟ้า 
  • สัญญาซื้อขาย (กรณีซื้อขายบ้าน) 

3. การขอใช้ไฟฟ้าโดยเจ้าบ้านไม่ได้ไปยื่นเรื่องเอง 

กรณีให้ผู้อื่นดำเนินการแทนเจ้าบ้าน จะต้องเตรียมเอกสารประกอบในการยื่นเรื่อง ดังนี้ 

  • หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท 
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ 

4. การขอไฟฟ้าสำหรับบ้านเช่า 

เอกสารการขอใช้ไฟฟ้าในกรณีเป็นผู้เช่าบ้าน ใช้เอกสารต่อไปนี้ 

  • สำเนาบัตรประชาชน / บัตรประจำตัวราชการ / บัตรประจำตัวพนักงานองค์กรรัฐ
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่ปัจจุบัน โดยจะต้องมีชื่อของผู้ขอใช้ไฟฟ้าด้วย 
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอติดตั้งมิเตอร์ 
  • สำเนาสัญญาเช่าบ้านพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท 
  • สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้เช่า 

5. การขอไฟฟ้าสำหรับนิติบุคคล 

เอกสารยื่นคำร้องขอใช้ไฟฟ้า มีดังนี้ 

  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม 
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอติดตั้งมิเตอร์ 
  • ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ออกให้ไม่เกิน 3 เดือน (ใบ ภ.พ.20) 
  • หนังสือรับรองการจดทะเบีบนนิติบุคคลที่ออกไม่เกิน 3 เดือน นับจากวันที่งานทะเบียนรับรอง 

ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า

  • ยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือที่เว็บไซต์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค https://eservice.pea.co.th/cos/Menu
  • หลังจากยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้าพร้อมเอกสารครบถ้วน  เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะเข้าไปทำการตรวจสอบการเดินสายไฟในบ้านหรืออาคารตามสถานที่ขอติดตั้ง (กรณีที่ยังไม่มีการเดินสายไฟฟ้า ให้เดินสายไฟให้เรียบร้อย ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ) 
  • เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่ามีการเดินสายไฟฟ้าถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งผู้ขอใช้ไฟฟ้าชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แต่ในกรณีที่การเดินสายไฟฟ้าไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ดำเนินแก้ไข และเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง โดยค่าธรรมเนียมต่าง ๆ การไฟฟ้าจะกำหนดไว้ตามประเภทและขนาดมิเตอร์ที่ขอติดตั้ง 
  • เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเสร็จสิ้น ผู้ขอใช้ไฟฟ้าควรเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน 
  • กรณีที่ขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว ควรเตรียมสายไฟฟ้าและคัทเอาท์ เบรกเกอร์ตามขนาดมอเตอร์มาในวันที่ชำระเงินด้วย 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไหนบ้าง

  • การไฟฟ้านครหลวง (กฟน) โทร 1130 หรือ เว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง 
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โทร 1129 หรือ เว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 

The post การขอใช้ไฟฟ้ามีขั้นตอนอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%9f%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99/feed/ 0 7003
ไขข้อสงสัย สระผมบ่อย ผมยาวเร็วจริงไหม https://productivenews.com/%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a2-%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9c%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2-%e0%b8%9c%e0%b8%a1%e0%b8%a2/ https://productivenews.com/%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a2-%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9c%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2-%e0%b8%9c%e0%b8%a1%e0%b8%a2/#respond Thu, 28 Sep 2023 03:33:04 +0000 https://productivenews.com/?p=6994 หลายคนเชื่อว่าการสระผมบ่อย ๆ จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น วันนี้แอดมินจะมาชวนหาคำตอบ การสระผมทุกวันผมยาวไหม และการสระผมบ่อย ๆ จะส่งผลต่อสุขภาพผมอย่างไร ไปดูคำตอบพร้อม ๆ กันเลยค่ะ  สระผมบ่อยสุขภาพเส้นผมเป็นอย่างไร  สำหรับใครที่ต้องการจะไว้ผมยาว และอยากให้ผมยาวเร็ว ๆ ก็จะทำตามความเชื่อที่ว่าสระผมทุกวันเร่งผมยาวได้ หรือ แม้แต่ผู้ที่มักจะมีเหงื่อออกมาก หรือเป็นนักกีฬา ทำให้ต้องสระผมบ่อย ๆ เพื่อขจัดเหงื่อ น้ำมันบนเส้นผม และกลิ่นอับเหงื่อ แต่รู้ไหมว่า การสระผมทุกวัน หรือการสระผมบ่อย ๆ ไม่ดีต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เนื่องจากแชมพูและครีมนวดจะชะล้างน้ำมันธรรมชาติบนเส้นเส้นผมและหนังศีรษะออกไปด้วย ทำให้หนังศีรษะแห้ง คัน และเส้นผมอ่อนแอ เปราะบาง และร่วงขาดได้ง่าย  ควรสระผมบ่อยแค่ไหนจึงไม่ส่งผลเสียต่อเส้นผม  การสระผมที่ดีต่อสุขภาพเส้นผม และไม่รบกวนหนังศีรษะเกินไป ควรสระผมสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง หรือ ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละคน หากมีเหงื่อออกมาก หรือออกกำลังกายเป็นประจำ อาจสระผมได้บ่อยขึ้น แต่ไม่ควรสระผมทุกวัน แต่สามารถสระผมได้บ่อยที่สุด คือ วันเว้นวัน แต่ถ้าจำเป็นต้องสระผมทุกวัน ควรใช้เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น …

The post ไขข้อสงสัย สระผมบ่อย ผมยาวเร็วจริงไหม appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
หลายคนเชื่อว่าการสระผมบ่อย ๆ จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น วันนี้แอดมินจะมาชวนหาคำตอบ การสระผมทุกวันผมยาวไหม และการสระผมบ่อย ๆ จะส่งผลต่อสุขภาพผมอย่างไร ไปดูคำตอบพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 

สระผมบ่อยสุขภาพเส้นผมเป็นอย่างไร 

สำหรับใครที่ต้องการจะไว้ผมยาว และอยากให้ผมยาวเร็ว ๆ ก็จะทำตามความเชื่อที่ว่าสระผมทุกวันเร่งผมยาวได้ หรือ แม้แต่ผู้ที่มักจะมีเหงื่อออกมาก หรือเป็นนักกีฬา ทำให้ต้องสระผมบ่อย ๆ เพื่อขจัดเหงื่อ น้ำมันบนเส้นผม และกลิ่นอับเหงื่อ แต่รู้ไหมว่า การสระผมทุกวัน หรือการสระผมบ่อย ๆ ไม่ดีต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ เนื่องจากแชมพูและครีมนวดจะชะล้างน้ำมันธรรมชาติบนเส้นเส้นผมและหนังศีรษะออกไปด้วย ทำให้หนังศีรษะแห้ง คัน และเส้นผมอ่อนแอ เปราะบาง และร่วงขาดได้ง่าย 

ควรสระผมบ่อยแค่ไหนจึงไม่ส่งผลเสียต่อเส้นผม 

การสระผมที่ดีต่อสุขภาพเส้นผม และไม่รบกวนหนังศีรษะเกินไป ควรสระผมสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง หรือ ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละคน หากมีเหงื่อออกมาก หรือออกกำลังกายเป็นประจำ อาจสระผมได้บ่อยขึ้น แต่ไม่ควรสระผมทุกวัน แต่สามารถสระผมได้บ่อยที่สุด คือ วันเว้นวัน แต่ถ้าจำเป็นต้องสระผมทุกวัน ควรใช้เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น แชมพูเด็ก และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นจัดสระผม รวมไปถึงการเลี่ยงที่จะใช้ครีมนวดบริเวณหนังศีรษะ แต่ควรใช้ชะโลมครีมนวดเฉพาะบริเวณกลางเส้นผมไปจนถึงปลายผม เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม โดยไม่เพิ่มความมันให้กับหนังศีรษะ 

การสระผมช่วยเรื่องอะไรบ้าง 

การสระผม คือ การขจัดสิ่งสกปรก เหงื่อไคล และไขมันออกจากเส้นผมและหนังศีรษะ เป็นการทำความสะอาด และชะล้างสารเคมีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม สีย้อม และน้ำยาดัดผม ไม่ให้เกาะติดและหมักหมมจนก่อให้เกิดความอับชื้น จนมีกลิ่นเหม็นติดเส้นผมและหนังศีรษะ 

วิธีใดบ้างช่วยเร่งผมยาวเร็วขึ้น 

  • สระผมสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง 
  • หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่นจัด 
  • เลือกแชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ 
  • ใช้ครีมนวดผมให้ทั่วเส้นผม 
  • หลีกเลี่ยงการเช็ดหรือขยี้ผมแรง ๆ 
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ 

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ความเชื่อที่ว่า การสระผมบ่อย ๆ จะทำให้ผมยาวเร็วขึ้น ไม่เป็นความจริง เพราะการงอกของเส้นผมมีอัตราเจริญเติบโตประมาณ 0.35 – 0.40 มิลลิเมตร / วัน แต่สำหรับปัญหาผมยาวช้า เกิดจากปัจจัยได้หลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ความเครียด ฮอร์โมน กรรมพันธุ์ หรือการใช้สารเคมี ผลิตภัณฑ์เคมีที่เกี่ยวกับเส้นผมมากเกินไป และนอกจากการสระผมทุกวัน ผมไม่ยาวเร็วขึ้น แต่ยังทำให้ผมแห้ง เส้นผมอ่อนแอ เปราะบาง และผมขาดร่วงง่ายขึ้น แถมยังทำให้หนังศีรษะแห้ง มีอาการคันหนังศีรษะ จนต้องเกาศีรษะบ่อย ๆ ทำให้เสียบุคลิกภาพ และดูไม่สุภาพในบางสถานการณ์อีกด้วย 

The post ไขข้อสงสัย สระผมบ่อย ผมยาวเร็วจริงไหม appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a2-%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9c%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2-%e0%b8%9c%e0%b8%a1%e0%b8%a2/feed/ 0 6994
7 วิธีลดขยะในชีวิตประจำวัน รักษ์โลกได้มากขึ้นในแบบที่ทุกคนก็ทำได้ https://productivenews.com/7-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%82%e0%b8%a2%e0%b8%b0/ https://productivenews.com/7-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%82%e0%b8%a2%e0%b8%b0/#respond Mon, 11 Sep 2023 01:05:50 +0000 https://productivenews.com/?p=6982 ทุกวันนี้โลกของเราประสบปัญหาขยะล้นโลก ยิ่งจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ปริมาณขยะที่ถูกทิ้งจากคนทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แค่ในเพียงประเทศไทยก็มีการสร้างขยะรวม ๆ กันมากกว่า 27 ล้านตัน / ปี และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ปลายทางของขยะส่วนใหญ่มักจะไปจบที่หลุมฝังกลบ แต่ก็มีขยะอีกจำนวนไม่น้อยที่กำจัดด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม ทำให้มีขยะเล็ดลอดลงสู่ทะเล มีสารอันตรายปนเปื้อนลงดินและแหล่งน้ำ รวมไปถึงการระเหยสู่ชั้นบรรยากาศจนกลายเป็นมลพิษ และเพิ่มก๊าซเรือนกระจก จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่เราเรียก สภาวะโลกร้อน แต่ถ้าหากต้นเหตุแห่งปัญหา ซึ่งเป็นต้นทางของขยะที่มาจากพวกเราทุกคน ช่วยกันร่วมใจลดการสร้างขยะ และรู้จักการคัดแยกขยะที่บ้านให้ถูกต้อง กำจัดขยะบางชนิดได้อย่างถูกวิธี ด้วยการลดขยะตามแนวคิดแบบ 7R เพื่อลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้น ก็จะช่วยลดปริมาณขยะลงได้อย่างมหาศาล เป็น Sustainable life ดีต่อโลกและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน   1. Refuse ปฏิเสธถุงพลาสติกและโฟม  รู้ไหมว่า แค่เพียงพุงพลาสติกถุงเดียวจากการทิ้งของเรา ต้องใช้เวลาการย่อยสลายนานมากเป็น 400 – 500 ปี ชนิดที่เรียกว่า เราตายและเวียนมาเกิดหลายรอบแล้ว เจ้าถุงใบนั้นก็ยังคงค้างเติ่งอยู่ในโลกใบนี้อยู่เลย  แล้วเราก็ไม่ได้ทิ้งแค่ถุงใบเดียว มีหลายร้อย หลายพันชิ้นที่เราเป็นคนทิ้ง และขยะพลาสติกอีกหลายแสน หลายล้านชิ้นจากการทิ้งของคนทั่วโลก แค่ในประเทศไทยมีการทิ้งขยะพลาสติกต่าง ๆ รวมไปถึงขยะประเภทโฟม เฉลี่ย …

The post 7 วิธีลดขยะในชีวิตประจำวัน รักษ์โลกได้มากขึ้นในแบบที่ทุกคนก็ทำได้ appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
ทุกวันนี้โลกของเราประสบปัญหาขยะล้นโลก ยิ่งจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น ปริมาณขยะที่ถูกทิ้งจากคนทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แค่ในเพียงประเทศไทยก็มีการสร้างขยะรวม ๆ กันมากกว่า 27 ล้านตัน / ปี และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ปลายทางของขยะส่วนใหญ่มักจะไปจบที่หลุมฝังกลบ แต่ก็มีขยะอีกจำนวนไม่น้อยที่กำจัดด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม ทำให้มีขยะเล็ดลอดลงสู่ทะเล มีสารอันตรายปนเปื้อนลงดินและแหล่งน้ำ รวมไปถึงการระเหยสู่ชั้นบรรยากาศจนกลายเป็นมลพิษ และเพิ่มก๊าซเรือนกระจก จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่เราเรียก สภาวะโลกร้อน

แต่ถ้าหากต้นเหตุแห่งปัญหา ซึ่งเป็นต้นทางของขยะที่มาจากพวกเราทุกคน ช่วยกันร่วมใจลดการสร้างขยะ และรู้จักการคัดแยกขยะที่บ้านให้ถูกต้อง กำจัดขยะบางชนิดได้อย่างถูกวิธี ด้วยการลดขยะตามแนวคิดแบบ 7R เพื่อลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้น ก็จะช่วยลดปริมาณขยะลงได้อย่างมหาศาล เป็น Sustainable life ดีต่อโลกและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน  

1. Refuse ปฏิเสธถุงพลาสติกและโฟม 

รู้ไหมว่า แค่เพียงพุงพลาสติกถุงเดียวจากการทิ้งของเรา ต้องใช้เวลาการย่อยสลายนานมากเป็น 400 – 500 ปี ชนิดที่เรียกว่า เราตายและเวียนมาเกิดหลายรอบแล้ว เจ้าถุงใบนั้นก็ยังคงค้างเติ่งอยู่ในโลกใบนี้อยู่เลย  แล้วเราก็ไม่ได้ทิ้งแค่ถุงใบเดียว มีหลายร้อย หลายพันชิ้นที่เราเป็นคนทิ้ง และขยะพลาสติกอีกหลายแสน หลายล้านชิ้นจากการทิ้งของคนทั่วโลก แค่ในประเทศไทยมีการทิ้งขยะพลาสติกต่าง ๆ รวมไปถึงขยะประเภทโฟม เฉลี่ย 7,000 ตัน / วัน เลยทีเดียว นี่เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น หากคำนวนและนับต่อปี ขยะพลาสติกจากคนไทยทุกคนรวมกันจะมากมายมหาศาลแค่ไหน และด้วยที่ขยะพลาสติกส่วนใหญ่จะมีเม็ดปิโตรเลียมเป็นส่วนประกอบ ทำให้ไม่สามารถนำไปกำจัดด้วยการเผาได้ เพราะจะกลายเป็นไอระเหย สร้างมลพิษในชั้นบรรยากาศ หรือตกหล่นปนเปื้อนในดินและแหล่งน้ำ เป็นอันตรายต่อสัตว์ทุกชนิด ไม่เว้นแม้แต่เราทุกคนที่เป็นมนุษย์ ดังนั้น เราควรเปลี่ยนมาพกถุงผ้า เพื่อลดการรับถุงพลาสติก และพกกล่องข้าว แก้วน้ำ ปิ่นโต เพื่อลดการใช้แก้วพลาสติกหรือกล่องโฟมบรรจุอาหาร และเลือกใช้ภาชนะที่ใช้ซ้ำ อย่าง ช้อนส้อม ตะเกียบ และหลอดดูด ที่ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติแทน เมื่อลดการใช้พลาสติก จำนวนขยะย่อยสลายยากก็ลดลง และช่วยลดมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเราทุกคนได้

2. Reuse 

Reuse เป็นวิธีที่ช่วยให้ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่า ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาสีฟันให้หมดหลอด ใช้ปากกาจนหมดหมึก ใช้กระดาษให้หมดพื้นที่ทั้งสองหน้ากระดาษ หรือแม้แต่การดัดแปลง D I Y เปลี่ยนของเก่า หรือของที่ไม่ใช้แล้ว ให้เป็นของใหม่ ใช้ประโยชน์จริง เช่น การใช้ขวดน้ำสวย ๆ ทำเป็นแจกันดอกไม้ ใช้กระป๋องทำเป็นกระถางต้นไม้ ทำถุงผ้าจากเสื้อเก่า ๆ และอีกหลากหลายไอเดีย นอกจากจะช่วยลดขยะได้แล้ว ยังช่วยให้เราได้รู้จักการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และลดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องซื้อใหม่อีกด้วย 

3. Refill 

ลดขยะจากบรรจุภัณฑ์ ด้วยการเลือกซื้อสินค้าที่เติมได้ แม้ว่าอาจจะหายากหน่อย แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีร้านค้า และแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ให้บริการแบบเติมรีฟีล เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก และลดการใช้ทรัพยากรอื่น ๆ ช่วยลดขยะ แถมยังประหยัดค่าผลิต แพ็กเก็จจิ้งของทางผู้ประกอบการ แล้วยังช่วยเซฟค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคได้มากกว่า 30% เลยทีเดียว เรียกว่า win win ทั้ง 2 ฝ่าย 

4. Recycle 

การที่จะนำขยะไปรีไซเคิลได้แบบ 100% ขยะที่มาจากต้นทางจะต้องผ่านการคัดแยกขยะเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้น ขยะที่มีการกอง ๆ รวมกัน มักจะมีการปนเปื้อน ทำให้ขยะที่ควรนำไปรีไซเคิลได้ กลับต้องถูกนำไปฝังกลบแทน ซึ่งในแต่ละวันเจ้าหน้าที่ต้องเก็บขยะมากกว่า 9,000 ตัน และยังต้องใช้งบประมาณมากกว่า 2,000 ล้านบาท / ปี ในการจ้างพนักงานทำการแยกขยะ รวมไปถึงการฝังกลบด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเราทุกคนช่วยกันแยกขยะตั้งแต่ในบ้านของเราเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่เทศบาลจะมารับขยะไปกำจัดให้เหมาะสมที่ปลายทาง โดยแยกถุงขยะแต่ละประเภท และทิ้งขยะใส่ถังตามสีที่ส่วนกลางจัดไว้ให้ โดยเฉพาะ ขยะอินทรีย์ คือ ขยะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น ใบไม้ เศษไม้ มูลสัตว์ ขยะเศษอาหาร เปลือกผลไม้ กากกาแฟ ก้างปลา กระดูกสัตว์ เปลือกกุ้ง ฯลฯ ที่เมื่อกองสุมอยู่รวมกัน จะเกิดกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจากจุลินทรีย์กำลังย่อยสลายอินทรีย์สาร เหม็นไม่พอ ยังเรียกพวกมด หนู แมลงสาบ แมลงวัน แมลงหวี่ มารุมทึ้งตอมดม กินดื่มกันอย่างสำราญ และอาจทำให้กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราให้เจ็บป่วย แถมยังทำให้ขยะอื่น ๆ ที่อาจนำไปรีไซเคิลได้ อย่างพวกพลาสติก กระดาษลัง ยาง ไม้ เมื่อเกิดการปนเปื้อนแบบนี้แล้ว ยิ่งเพิ่มความยากในการคัดแยกขยะ หรือไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ทำให้ต้องนำไปเผาหรือฝังกลบ เพิ่มมลพิษมากขึ้น แต่ปัจจุบันมีวิธีช่วยกำจัดขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ 100% ด้วยนะ สามารถดูข้อมูลการจำกัดขยะอาหารได้ที่ Hass Thailand 

5. Repair 

Repair คือ การซ่อมแซมสิ่งของที่ยังสามาถทำได้ เพื่อให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อได้โดยไม่ต้องซื้อใหม่ ลองหัดต่อ เติม เย็บ ปะ เพื่อซ่อมแซมสิ่งของแทนการซื้อใหม่ และการใช้ของอย่างทะนุถนอม เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ได้นานที่สุด ไม่ให้ข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้พังก่อนเวลา ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเพิ่ม ลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองในการผลิตใหม่ 

6. Reduce 

Reduce คือ การลดการทรัพยากร ด้วยการลดใช้สิ่งต่าง ๆ ลง หรือใช้เท่าที่จำเป็น อย่างการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขนาดใหญ่ สามารถใช้ได้นาน แทนการซื้อสินค้าขนาดเล็กที่มีปริมาณน้อย ทำให้ต้องซื้อบ่อย ๆ เป็นการสิ้นเปลืองบรรจุภัณฑ์ และยังเพิ่มปริมาณขยะได้อย่างมหาศาล รวมไปถึงการใช้พลังงาน การใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น การเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาฯ ตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนตื่นนอนหรือก่อนเลิกใช้งานจริงอย่างน้อย 30 นาที การปิดไฟและถอดปลั๊กไฟที่ไม่จำเป็น เมื่อเลิกใช้งานอุปกรณ์ นอกจากจะช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน ยังช่วยลดค่าไฟได้อีกด้วยนะ 

7. Return 

การ Return คือ การหมุนเวียนนำมาใช้ใหม่ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งาน อย่างการคืนขวดน้ำอัดลม หรือบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ กลับไปสู่ผู้ผลิตเดิม เพื่อให้ผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นการใช้แบบหมุนเวียน ทำให้ไม่ต้องมีการผลิตใหม่ ลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณทรายและดินที่ใช้ในกระบวนการผลิตแก้ว หรือพลาสติกที่ถูกนำมาใช้เป็นแพ็เก็จจิ้งใส่สินค้าต่าง ๆ การรีเทิร์นยังช่วยปริมาณขยะได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว 

The post 7 วิธีลดขยะในชีวิตประจำวัน รักษ์โลกได้มากขึ้นในแบบที่ทุกคนก็ทำได้ appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/7-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%82%e0%b8%a2%e0%b8%b0/feed/ 0 6982
ไหว้สารทจีนอย่างไรให้ชีวิตปัง สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ห้ามทำในวันสารทจีน https://productivenews.com/%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%8a/ https://productivenews.com/%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%8a/#respond Wed, 30 Aug 2023 00:47:30 +0000 https://productivenews.com/?p=6972 วันสารทจีน คือ เทศกาลแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของชาวจีนชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเชื่อกันว่าเป็นวันที่ส่งวิญญาณขึ้นสวรรค์ และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณร้ายที่ต้องลงนรก โดยวันสารทจีนตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามแบบฉบับของจีน แต่สำหรับวันสารทจีนในไทยปีนี้ตรงกับวันที่ 30 สิงหาคม 2566  ชาวจีนมีความเชื่อกันว่า ในช่วงเทศกาลสารทจีน คือ วันที่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วจะกลับมาเยี่ยมเยือนลูกหลานในโลกมนุษย์ ดังนั้น ลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่จะทำการไหว้เพื่อแสดงความกตัญญู ขอพรให้ดวงวิญญาณมีความสุขและส่งขึ้นสวรรค์ ส่วนวิญญาณร้ายที่ต้องลงนรก ก็จะได้รับการอุทิศส่วนกุศลจากการทำบุญให้ ดังนั้น ในวันสารทจีน ชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีน จะมีการเตรียมของไหว้มากมายเพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และดวงวิญญาณต่าง ๆ โดยอาหารที่นิยมไหว้สารทจีน ได้แก่ ไก่ต้ม เป็ดต้ม หมูสามชั้นต้ม ปลาหมึกต้ม ข้าวเหนียว ขนมต้ม ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถั่วตัด ขนมบัวลอย ผลไม้ น้ำชา เหล้า กระดาษเงิน กระดาษทอง ธูปเทียน ดอกไม้  การไหว้ในเทศกาลสารทจีนจะแบ่งออกเป็น 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่  1. ไหว้เจ้าที่  การไหว้เจ้าที่ …

The post ไหว้สารทจีนอย่างไรให้ชีวิตปัง สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ห้ามทำในวันสารทจีน appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
วันสารทจีน คือ เทศกาลแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษของชาวจีนชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเชื่อกันว่าเป็นวันที่ส่งวิญญาณขึ้นสวรรค์ และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณร้ายที่ต้องลงนรก โดยวันสารทจีนตรงกับวันที่ 15 เดือน 7 ตามแบบฉบับของจีน แต่สำหรับวันสารทจีนในไทยปีนี้ตรงกับวันที่ 30 สิงหาคม 2566 

ชาวจีนมีความเชื่อกันว่า ในช่วงเทศกาลสารทจีน คือ วันที่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วจะกลับมาเยี่ยมเยือนลูกหลานในโลกมนุษย์ ดังนั้น ลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่จะทำการไหว้เพื่อแสดงความกตัญญู ขอพรให้ดวงวิญญาณมีความสุขและส่งขึ้นสวรรค์ ส่วนวิญญาณร้ายที่ต้องลงนรก ก็จะได้รับการอุทิศส่วนกุศลจากการทำบุญให้ ดังนั้น ในวันสารทจีน ชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีน จะมีการเตรียมของไหว้มากมายเพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และดวงวิญญาณต่าง ๆ โดยอาหารที่นิยมไหว้สารทจีน ได้แก่ ไก่ต้ม เป็ดต้ม หมูสามชั้นต้ม ปลาหมึกต้ม ข้าวเหนียว ขนมต้ม ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถั่วตัด ขนมบัวลอย ผลไม้ น้ำชา เหล้า กระดาษเงิน กระดาษทอง ธูปเทียน ดอกไม้ 

การไหว้ในเทศกาลสารทจีนจะแบ่งออกเป็น 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่ 

1. ไหว้เจ้าที่ 

การไหว้เจ้าที่ ไหว้ในช่วงเช้าและต้องไม่เกินเที่ยงวัน มีอาหารคาว – หวาน กุยช่าย ขนมเข่ง ขนมเทียน โดยจะต้องแต้มจุดแดงไว้ตรงกลาง ซึ่งเป็นประเพณีสารทจีน อันเนื่องมาจากตามหลักความเชื่อของชาวจีน สีแดง คือ สีแห่งความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีอาหารคาว 5 อย่าง ผลไม้มงคล 5 อย่าง น้ำชา เหล้าจีน และกระดาษเงิน กระดาษทอง พิธีไหว้เจ้าที่ เริ่มจากจัดอาหารมงคลที่เตรียมไว้ จากนั้นจุดธูป 5 ดอก แล้วตั้งจิตอธิษฐาน เมื่อเสร็จพิธี ให้เผากระดาษเงิน กระดาษทอง เป็นอันเสร็จพิธี 

Chinese Temple

2. ไหว้บรรพบุรุษ 

การไหว้บรรพบุรุษ จะเริ่มไหว้ในช่วงสาย ๆ แต่ไม่เกินเที่ยงวัน โดยวิธีการไหว้บรรพบุรุษจะคล้ายกับการไหว้เจ้าที่ โดยการเริ่มพิธีไหว้บรรพบุรุษ จะจัดอาหารกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ เตรียมอาหารมงคลขึ้นโต๊ะ หากบรรพบุรุษเสียชีวิตนานแล้ว ให้ใช้ธูป 3 ดอก แต่ถ้าเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน ใช้ธูป 1 ดอก จากนั้นนำเก้าอี้มาวางตามจำนวนของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยจะต้องมีน้ำแกง หรือขนมน้ำใส ๆ วางประกบคู่กับชามข้าวสวย ขนมเข่ง ขนมเทียน ผลไม้ พร้อมด้วยชุดน้ำชาตามจำนวนบรรพบุรุษ ในขณะที่ทำการไหว้ สามารถนำกระดาษเงิน กระดาษทองไปเผาได้เลย 

3. ไหว้สัมภเวสี

การไหว้สัมภเวสีจะไหว้ในช่วงบ่าย สัมภเวสี คือ ดวงวิญญาณเร่ร่อน หรือวิญญาณที่ไม่มีญาติคอยทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ไป๊ฮ๊อเฮียตี๋ แปลว่า ไหว้พี่น้องที่ดี เป็นการแสดงความให้เกียรติกันของคนจีน โดยเรียกผีไม่มีญาติว่าพี่น้องที่ดี และการไหว้สัมภเวสี ก็เพื่อแสดงความเมตตาและกรุณาต่อดวงวิญญาณเร่ร่อน เปิดโอกาสให้ผีทั้งหลายมารับส่วนบุญ ซึ่งการไหว้สัมภเวสีจะไหว้นอกบ้าน โดยมีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และผลไม้ สามารถจัดได้ตามต้องการ อาจมีข้าวหอมโบราณ ปลานึ่ง คอปึ่ง เส้นหมี่ เหล้า น้ำชา กระดาษเงิน กระดาษทอง โดยจัดทุกอย่างวางอยู่ด้วยกันในสำรับเซ่นไหว้ และมีการปักธูปที่อาหารอย่างละ 1 ดอก 

สิ่งที่ควรทำในวันสารทจีน 

หัวใจสำคัญของการทำพิธีสารทจีน เพื่อให้ลูกหลานได้มาพบเจอและอยู่รวมกัน และทำสิ่งดี ๆ ร่วมกัน โดยในช่วงก่อนวันสารทจีน ชาวจีนจะทำพิธีซิโก หรือ พิธีเทกระจาด เป็นการบริจาคทาน เพื่อทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว อาจมีการทำพิธีที่ศาลเจ้า มูลนิธิ หรือตามวัดและวัดจีนต่าง ๆ โดยในพิธีกรรมนี้ จะมีการสวดมนต์ เวียนธูป เวียนกระดาษเซ่น แจกข้าวสาร อาหารแห้งแก่คนยากไร้ 

สิ่งที่ห้ามทำในวันสารทจีน 

ชาวจีนโบราณเชื่อว่าข้อห้ามเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณมาทำร้ายได้ และหากใครทำตามข้อห้ามในวันสารทจีน เชื่อว่าจะทำให้ดวงไม่ดีตลอดทั้งปี 

  1. ห้ามทะเลาะเบาะแว้งหรือพูดจาไม่ดีต่อกัน 
  2. ห้ามนำของมีกลิ่นคาวมาไหว้ 
  3. ห้ามนำของบูด ของเสียมาไหว้ 
  4. ห้ามนำของแตกหักมาไหว้ 
  5. ห้ามนำของที่มีสีดำและสีขาวมาไหว้ 
  6. ห้ามนำของที่มีรูปปั้นสัตว์มาไหว้ 
  7. ห้ามใช้ของมีคม 
  8. ห้ามทิ้งเศษอาหารไว้บนโต๊ะพิธีไหว้ 
  9. ห้ามเก็บของที่ไหว้แล้วไปทิ้งถังขยะ 

The post ไหว้สารทจีนอย่างไรให้ชีวิตปัง สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ห้ามทำในวันสารทจีน appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%88%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%8a/feed/ 0 6972
รู้ได้อย่างไรเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์  https://productivenews.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87/ https://productivenews.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87/#respond Tue, 22 Aug 2023 06:16:48 +0000 https://productivenews.com/?p=6961 ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือ Thyroid Cancer อยู่ที่ประมาณ 2,800 ราย / ปี โดยจัดเป็นอันดับที่ 7 ของโรคมะเร็งทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเป็นผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อาจเกิดจากการแบ่งเซลล์ที่ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ จนกลายเป็นเนื้อร้าย โดยจะสามารถพบได้จากการคลำพบก้อนที่บริเวณกระดูคอหอยตรงลำคอ ซึ่งเป็นตำแหน่งของต่อไทรรอยด์ ที่ปกติจะมีลักษณะแบน ไม่มีกลุ่มก้อนใด ๆ  ต่อมไทรอยด์ในระยะแรกจะไม่มีการแสดงอาการผิดปกติใด ๆ แต่จะสังเกตได้จากการก้อนที่บริเวณดังกล่าว หากพบว่ามีก้อนที่ลำคอ โดยเฉพาะก้อนด้านหน้าลำคอเคลื่อนขึ้น – ลงเมื่อกลืนน้ำลาย อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งไทรอยด์ได้ จึงควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งมะเร็งต่อมไทรอยด์มีทั้งชนิดที่ไม่ร้ายแรง ไปจนถึงมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดร้ายแรงมาก โดยกลุ่มที่ไม่ร้ายแรงจะมีก้อนเนื้องอกโตช้า อาการเกิดช้า และอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยต่ำ  ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ อาจมีสาเหตุจากการเป็นโรคอื่น ๆ  อาการที่เป็นสัญญาณเตือนเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ปัจจัยใดบ้างที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์  การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์  เมื่อผู้ป่วยคลำพบก้อนผิดปกติที่ลำคอ หรือรู้สึกผิดปกติและไปโรงพยาบาล แพทย์จะทำการส่งตรวจ Ultasound Thyroid เพื่อตรวจหาไทรอยด์ โดยจะใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเอาเนื้อจากต่อมไทรอยด์ไปตรวจ เพื่อทำการวินิจฉัยโรค และเมื่อผลสรุปว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยให้มีโอกาสหายจากโรคได้ โดยอาจพิจารณาให้การรักษาด้วยรังสีไอโอดีนหลังผ่าตัดในบางกรณี หรือรักษาด้วยรังสีและเคมีบำบัด  เมื่อรู้สึกว่ามีก้อนผิดปกติที่ลำคอ …

The post รู้ได้อย่างไรเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์  appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือ Thyroid Cancer อยู่ที่ประมาณ 2,800 ราย / ปี โดยจัดเป็นอันดับที่ 7 ของโรคมะเร็งทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเป็นผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อาจเกิดจากการแบ่งเซลล์ที่ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ จนกลายเป็นเนื้อร้าย โดยจะสามารถพบได้จากการคลำพบก้อนที่บริเวณกระดูคอหอยตรงลำคอ ซึ่งเป็นตำแหน่งของต่อไทรรอยด์ ที่ปกติจะมีลักษณะแบน ไม่มีกลุ่มก้อนใด ๆ 

ต่อมไทรอยด์ในระยะแรกจะไม่มีการแสดงอาการผิดปกติใด ๆ แต่จะสังเกตได้จากการก้อนที่บริเวณดังกล่าว หากพบว่ามีก้อนที่ลำคอ โดยเฉพาะก้อนด้านหน้าลำคอเคลื่อนขึ้น – ลงเมื่อกลืนน้ำลาย อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งไทรอยด์ได้ จึงควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งมะเร็งต่อมไทรอยด์มีทั้งชนิดที่ไม่ร้ายแรง ไปจนถึงมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดร้ายแรงมาก โดยกลุ่มที่ไม่ร้ายแรงจะมีก้อนเนื้องอกโตช้า อาการเกิดช้า และอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยต่ำ 

ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ อาจมีสาเหตุจากการเป็นโรคอื่น ๆ 

  • คอพอก หรือ คอหอยพอก (Nodular goiter) ซึ่งร้อยละ 50 – 60 ของก้อนเดี่ยวที่ต่อมไทรอยด์ จะมีความผิดปกติที่เป็นกลุ่มคอหอยพอก
  • เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงของต่อมไทรอยด์ ชนิด Thyroid adenoma 
  • เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงของต่อมไทรอยด์ชนิดที่เป็นพิษร่วมด้วย 
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์ ชนิด Thyroid carcinoma ซึ่งมีโอกาสพบได้ร้อยละ 10 – 15 โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนเดี่ยว ๆ ขนาดเล็กในระยะเริ่มต้น และจะค่อย ๆ โตขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะมีการแพร่กระจายเป็นก้อนหลายก้อนในเนื้อต่อมไทรอยด์ หรืออาจจะแพร่กระจายไปที่อื่น เช่น ที่กระดูก หรือ ต่อมน้ำเหลือง เป็้นต้น 

อาการที่เป็นสัญญาณเตือนเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง

  • ก้อนโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 
  • กลืนน้ำลายและอาหารลำบาก หรือสำลักเมื่อกลืนอาหาร 
  • เสียงแหบ หายใจไม่สะดวก 
  • คลำเจอก้อนโตที่ด้านข้างลำคอ 

ปัจจัยใดบ้างที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ 

  • อายุ : จากรายงานทางการแพทย์ พบว่า ช่วงอายุที่มักจะพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ มักจะเจอใน 2 ช่วงอายุด้วยได้ คือ อายุต่ำกว่า 20 ปี และ อายุสูง 60 ปีขึ้นไป โดยจะพบผู้ป่วยที่เมื่อมีอายุมากขึ้นในเพศหญิง ในขณะที่เพศชายจะไม่สัมพันธ์กับอายุ 
  • เพศ : โดยปกติทั่วไป จะพบผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย หากพบก้อนของต่อมไทรอยด์ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งได้ 
  • ขนาดก้อนที่คอ : โดยส่วนใหญ่ ก้อนไทรอยด์ที่มีขนาดโตจะมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าก้อนเล็ก โดยเฉพาะก้อนที่มีการเปลี่ยนแปลงขนาดอย่างรวดเร็ว 
  • ลักษณะของก้อน : ก้อนมีลักษณะแข็ง ผิวขรุขระ ติดแน่นกับผิวหนังและอวัยวะใกล้เคียง 
  • ประวัติการได้รับรังสี : ผู้ที่เคยได้รับรังสีบริเวณศีรษะและลำคอ อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้ 
  • อาการเจ็บป่วยอื่น ๆ : ต่อมน้ำเหลืองคอโต กดทางเดินหายใจ ทำให้กลืนลำบาก มีอาการเจ็บปวด 

การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ 

เมื่อผู้ป่วยคลำพบก้อนผิดปกติที่ลำคอ หรือรู้สึกผิดปกติและไปโรงพยาบาล แพทย์จะทำการส่งตรวจ Ultasound Thyroid เพื่อตรวจหาไทรอยด์ โดยจะใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเอาเนื้อจากต่อมไทรอยด์ไปตรวจ เพื่อทำการวินิจฉัยโรค และเมื่อผลสรุปว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยให้มีโอกาสหายจากโรคได้ โดยอาจพิจารณาให้การรักษาด้วยรังสีไอโอดีนหลังผ่าตัดในบางกรณี หรือรักษาด้วยรังสีและเคมีบำบัด 

เมื่อรู้สึกว่ามีก้อนผิดปกติที่ลำคอ หรือมีอาการเจ็บ กลืนน้ำลายหรืออาหารลำบาก ไม่ควรละเลยหรือปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบไปพบหมอหรือแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อจะได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคได้ท่วงทัน เพราะอาการของโรคมะเร็งบางชนิดอาจรักษาให้หายขาดได้ หรือลดความเสี่ยงของอาการโรคก่อนที่จะกลายไปเป็น “มะเร็งต่อมไทรอยด์”

The post รู้ได้อย่างไรเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์  appeared first on โปรดักทีฟ นิวส์ - รวมข่าว "Digital Marketing" เกาะติดข่าวของ"Digital Marketing" ข่าวด่วนของ "Digital Marketing" ที่คุณสนใน คิดตามเรื่อง"Digital Marketing".

]]>
https://productivenews.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87/feed/ 0 6961